วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เปิดตำนาน หมอเส็ง

***สารจาก คุณ หมอเส็ง***
ขอแสดงความยินดีที่ท่านกำลังเข้ามาร่วมงานกับ บริษัท แสงสุริยะฉัตร (2002) จำกัด ในวันนี้เพราะนี่คือก้าวแรกแห่งความสำเร็จของชีวิตแล้วเพียงท่านมุ่งมั่นนำพาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยที่ดีที่สุด ที่เราทุ่มเททั้งชีวิต และ จิตใจ ผลิตขึ้นเพื่อมนุษยชาติไปให้คนได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างแท้จริง อีกไม่นานความสำเร็จจะเกิดกับท่าน ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งผู้ให้ และ ผู้รับ ธุรกิจขายตรงของ บริษัท แสงสุริยะฉัตร (2002) จำกัด นั้น ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ขอให้เริ่มที่ตัวท่านเองใช้ผลิตภัณฑ์จนเห็นคุณประโยชน์ ก่อนแล้วแนะนำให้ผู้ที่ท่านรู้จักได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์นี้เหมือนกันดังที่ท่านได้รับ เพียงแค่นั้นวันที่ท่านหวนกลับมาอ่านสารนี้อีกครั้งก็จะเป็นวันแห่งความสำเร็ จในธุรกิจนี้ของท่านอย่างแน่นอน
***ประวัติ คุณ หมอเส็ง***
ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร แพทย์ที่ปรึกษาคลีนิคสุขภาพไตรเวชศาสตร์ด้านการแพทย์แผนตะวันออก หรือ ที่รู้จักกันดีในนาม “หมอเส็ง” หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทย และ จีน ด้วยวัยกว่า 60 ปี กับการคลุกคลีอยู่กับร้านขายยาแผนโบราณมาตั้งแต่ครั้งยังเด็ก หมอเส็งจึงได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนในการปรุงยาอย่างละเอียด และ จดจำตัวยาสมุนไพรทุกชนิดได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการ ผลิต หรือ การปรุงยาจากสมุนไพรไทย และ จีน ซึ่งสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันมากที่นับวันจะมีผู้เชี่ยวชาญอยู่น้อยคนเต็มทีเพราะนอกจากจะอาศัยความรู้ ความชัดเจน ในเรื่องสมุนไพรแล้ว ยังต้องมีประสบการณ์อันยาวนานซึ่งประสบการณ์ความสามารถเหล่านี้หมอเส็งใช้เวลาเรียนรู้สั่งสมมาจนแตกฉาน

บ้านเดิมท่านอยู่ที่ บางคล้า แปดริ้ว เป็นร้านขายยาสมุนไพร รักษาโรคทั่วไป ทั้งก๋ง และ เตี่ย หรือ เรียกว่า ทั้งตระกูลท่านเป็นหมอยาซึ่งมีความชำนาญด้านสมุนไพรมาตลอด เตี่ยของท่านเป็นหมอมาจากเมืองจีนจะสอนคุณหมอเส็งให้รู้จักการใช้สมุนไพร ซี่งการศึกษาแพทย์แผนโบราณนั้นยากมากต้องเรียนรู้ถึงสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิดถ้าจะใช้สมุนไพรรักษาโรคให้ถูกหลัก และ ให้ออกฤทธิ์รักษาอย่างได้ผลต้องแตกฉาน สมุนไพรเพียงชนิดเดียวไม่สามารถรักษาได้ผล ต้องนำสมุนไพรแต่ละชนิดนำมาผสมผสานกันจึงจะออกฤทธิ์ในการรักษาอย่างได้ผล และ จะต้องวินิจฉัยโรคของคนไข้ให้ดีเสียก่อนจึงจะปรุงยารักษาให้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการเรียนรู้มาอย่างลึกซึ้ง กระทั่งได้แยกตัวออกมาเปิดร้านของตัวเองที่กรุงเทพฯ รักษาโรคทั่วไป เป็นหมอคู่กับเตี่ยมาตลอด จนเตี่ยอายุมากจึงวางมือให้หมอเส็งดำเนินการต่อไป เพราะเห็นว่าความรู้ความสามารถของหมอเส็งเป็นที่เชื่อถือ และ ไว้วางใจได้แล้ว หมอเส็งได้ไปสอบใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขทั้งทางด้านเวชกรรม และ เภสัชกรรม ซึ่งคนที่จะไปสอบได้ต้องมีความรู้ด้านสมุนไพรเป็นอย่างดีไม่ใช่ใครก็ไปสอบได้ซึ่งเมื่อสมัยนั้นร้านขายยาแผนโบราณยังมีไม่มากนักต่อเมื่อมียาแผนปัจจุบันเข้ามาหมอเส็งก็ขายยาแผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย ทั้งขาย ทั้งเป็นหมอ ไปในตัวพอมาระยะหลังยาฝรั่งเริ่มมาแรง ผู้คนหันไปนิยมกันมากขึ้นด้วยเหตุเพราะกินง่าย และ ไม่มีกลิ่นฉุนเหมือนยาแผนโบราณ ขณะเดียวกันการแข่งขันของยาแผนปัจจุบันได้ขยายตัวสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว หมอเส็งจึงหันมาเน้นในเรื่องของสมุนไพรทั้งไทย และ จีนตามที่ตัวเองถนัดมากขึ้นโดยเฉพาะการรักษาโรคเกี่ยวกับสตรีไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ เลือดลม หรือ อาการทางสมอง ที่เรามักจะพบในคนสูงอายุ และล่าสุดที่หมอเส็งได้เพียรพยายามศึกษามากกว่า 10 ปี นั่นก็คือมหัศจรรย์แห่งสมุนไพรไทยที่ชื่อ "ว่านชักมดลูก"

ไม่มีความคิดเห็น: